6 ขั้นตอนของกระบวนการรีไซเคิล E-Waste มีอะไรบ้าง ?

Written by HRT Recycling
Published on
June 6, 2025

จากรายงาน The Global E-waste Monitor 2024 ขยะอิเล็กทรอนิกส์กำลังเพิ่มขึ้นในอัตราที่น่ากังวล โดยในปี 2022 ทั่วโลกผลิต E-Waste รวมกันถึง 62 ล้านตัน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 82 ล้านตันในปี 2030 ซึ่งเป็นตัวเลขที่รวดเร็วกว่าการรีไซเคิลที่ทำได้จริงถึง 5 เท่า ดังนั้น นี่จึงเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง เพราะขยะอิเล็กทรอนิกส์สามารถก่อให้เกิดผลกระทบรุนแรงทั้งต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพมนุษย์ ด้วยเหตุนี้หลายประเทศจึงเริ่มออกกฎหมายควบคุมและพัฒนาเทคโนโลยีการจัดการ E-Waste ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในกระบวนการรีไซเคิลที่กลายเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) บทความนี้จึงจะพาไปรู้จักกับ “กระบวนการรีไซเคิล E-Waste” ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ว่าแท้จริงแล้ว ขยะอิเล็กทรอนิกส์เดินทางอย่างไรบ้างกว่าจะกลับมาเป็นทรัพยากรที่ใช้ได้อีกครั้ง

กระบวนการรีไซเคิล E-Waste เริ่มต้นจากการเก็บรวบรวม

ทำไมการรีไซเคิล E-Waste จึงสำคัญ ?

  • E-Waste หากกำจัดผิดวิธี เช่น ฝังกลบหรือเผา จะปล่อยสารเคมีอันตราย
    ไม่ว่าจะเป็นตะกั่ว ปรอท และแคดเมียม ซึ่งล้วนเป็นอันตรายต่อสุขภาพมนุษย์ในระยะยาวทั้งสิ้น
  • การรีไซเคิลช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
    การนำ E-Waste เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอุปกรณ์ไอทีที่ถูกวิธี จะช่วยป้องกันไม่ให้สารพิษรั่วไหลลงสู่ดิน น้ำ และอากาศ ลดการปนเปื้อนและรักษาระบบนิเวศให้ปลอดภัยมากขึ้น
  • E-Waste เป็นแหล่งโลหะมีค่าที่สามารถสกัดกลับมาใช้ใหม่ได้
    อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากมีส่วนประกอบของโลหะมีค่า เช่น ทองคำ เงิน และทองแดง การรีไซเคิลจึงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการคืนทรัพยากรเหล่านี้กลับสู่ระบบการผลิต
  • การรีไซเคิลอย่างถูกต้องสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ
    นอกจากช่วยลดต้นทุนการผลิตใหม่แล้ว โลหะที่สกัดได้จาก E-Waste ยังสามารถนำไปขายต่อได้ในราคาดี เป็นการสร้างรายได้เสริมทั้งในระดับบุคคลและองค์กรอย่างยั่งยืน

E-Waste ไปสู่โรงงานรีไซเคิลได้อย่างไรบ้าง ?

  1. จุดรับทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์
    เช่น จุดรับคืนโทรศัพท์มือถือในศูนย์การค้า จุดรับขยะ IT ขององค์กร หรือจุด Drop-off ตามแคมเปญสิ่งแวดล้อม
  2. ระบบเรียกคืนจากผู้ผลิต (Take-Back System)
    บริษัทผู้ผลิตหลายรายมีบริการรับคืนผลิตภัณฑ์เมื่อหมดอายุการใช้งาน เพื่อส่งต่อสู่ระบบรีไซเคิลที่ได้มาตรฐาน
  3. บริษัทขนส่งและรีไซเคิลเฉพาะทาง
    อย่างเช่น HRT Recycling ที่ให้บริการครบวงจร ตั้งแต่รับขยะจากสำนักงาน คัดแยก จนถึงขั้นตอนกระบวนการรีไซเคิล E-Waste ตามระบบที่ปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมาย

กระบวนการรีไซเคิล E-Waste 6 ขั้นตอน

เมื่อขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้าสู่โรงงานรีไซเคิลต้องผ่านกระบวนการรีไซเคิล E-Waste ที่มีความละเอียดสูง โดยสามารถได้แบ่งเป็น 6 ขั้นตอน ดังนี้

1. Shredding – ฉีกหั่นให้เป็นชิ้นเล็ก

ขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ส่งเข้ามาจะถูกป้อนเข้าสู่เครื่อง Shredder เพื่อทำการฉีกและหั่นชิ้นส่วนให้มีขนาดเล็กลง ช่วยให้สามารถแยกวัสดุต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นในขั้นตอนถัดไป เช่น โลหะ พลาสติก และแผงวงจร ช่วยลดความซับซ้อนของโครงสร้างอุปกรณ์

เครื่อง Shredder คือส่วนสำคัญของกระบวนการรีไซเคิล E-Waste

2. Crushing – บดหยาบให้พร้อมแยก

หลังจากผ่านการฉีก ชิ้นส่วนจะถูกส่งต่อเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล E-Waste ขั้นต่อไป ซึ่งคือการบดหยาบ โดยใช้เครื่อง Crusher เพื่อทำให้วัสดุแตกตัวเป็นชิ้นเล็กระดับเซนติเมตร การบดหยาบช่วยให้สามารถแยกวัสดุชั้นในได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

3. Grinding – บดละเอียดจนแยกระดับไมครอน

กระบวนการรีไซเคิล E-Waste ขั้นตอนนี้จะใช้เครื่อง Grinder ที่สามารถบดวัสดุให้มีความละเอียดสูงถึงระดับไมครอน เหมาะสำหรับการเตรียมเข้าสู่กระบวนการแยกขั้นสูงอย่างแม่นยำ โดยเฉพาะเมื่อต้องการสกัดโลหะมีค่าที่ฝังอยู่ในชั้นวัสดุผสม เช่น ทองคำหรือพาลาเดียมจากแผงวงจร

4. Pulse Dust Collector – กรองฝุ่นพิษก่อนลอยสู่โลก

ในระหว่างกระบวนการบดละเอียด ฝุ่นจำนวนมากจะถูกปลดปล่อย โดยอาจปนเปื้อนด้วยสารพิษหรือโลหะหนัก เครื่อง Pulse Dust Collector จึงทำหน้าที่กรองฝุ่นเหล่านี้ออกจากอากาศด้วยระบบ Jet Air ช่วยป้องกันการฟุ้งกระจายของฝุ่นพิษ และลดมลภาวะภายในโรงงาน

5. Airflow Separator – แยกวัสดุเบาและหนักด้วยลม

วัสดุที่ถูกบดละเอียดจะเข้าสู่ระบบแยกด้วยแรงลม (Airflow Separation) โดยอาศัยหลักความแตกต่างของน้ำหนักและความหนาแน่น วัสดุเบา เช่น พลาสติก จะลอยไปตามลม ขณะที่วัสดุหนักอย่างผงโลหะ จะตกลงสู่ด้านล่าง ช่วยให้สามารถแยกวัสดุต่างชนิดออกจากกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

6. Electrostatic Separator – แยกโลหะด้วยประจุไฟฟ้า

กระบวนการรีไซเคิล E-Waste ขั้นตอนสุดท้ายคือการใช้เครื่อง Electrostatic Separator ซึ่งอาศัยสนามไฟฟ้าสถิตในการแยกวัสดุที่นำไฟฟ้า (เช่น โลหะ) ออกจากวัสดุที่ไม่นำไฟฟ้า (เช่น พลาสติกหรือเรซิน) เป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ช่วยสกัดโลหะมีค่าอย่างแม่นยำและคงคุณภาพสูงที่สุด

จากเศษซากสู่ทรัพยากรอนาคต

เมื่อมองผิวเผิน ขยะอิเล็กทรอนิกส์อาจดูเป็นเพียงของที่ไร้ค่า แต่ในความเป็นจริงซากอุปกรณ์เหล่านี้กลับซ่อน “ทรัพยากรที่มีมูลค่าสูง” ไว้จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นทองคำ เงิน พาลาเดียม หรือทองแดง ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญที่อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกต้องการ

กระบวนการรีไซเคิล E-Waste ที่ทันสมัยในปัจจุบันจึงไม่เพียงมีเป้าหมายแค่การกำจัดของเสีย แต่ยังเป็นการ “แปรรูปขยะให้กลับมาเป็นวัตถุดิบ” ที่สามารถนำกลับเข้าสู่ระบบการผลิตได้อีกครั้ง โดยใช้พลังงานน้อยกว่าการทำเหมืองแร่แบบดั้งเดิมหลายเท่า และยังลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีนัยสำคัญ

ตัวอย่างเช่น ขยะอิเล็กทรอนิกส์เพียง 1 ตัน สามารถสกัดทองคำได้มากกว่าการขุดแร่ทองจากเหมืองปกติในปริมาณเท่ากัน นี่จึงเป็นอีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้การรีไซเคิลอุปกรณ์ไอทีกลายเป็นกลไกหลักของแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ที่เน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน


การกำจัด E-Waste หรือทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธีไม่เพียงแค่ปกป้องสิ่งแวดล้อม แต่ยังสามารถเปลี่ยนขยะให้กลายเป็นมูลค่าได้ เลือก HRT Recycling ผู้นำด้านการรับซื้อและรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ด้วยประสบการณ์ในการรีไซเคิลมากกว่า 3,000 ตัน และการดำเนินงานที่โปร่งใสตามมาตรฐานสากล ทีมงานของ HRT Recycling พร้อมให้บริการรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ถึงสำนักงานของคุณ หรือสามารถส่งขยะอิเล็กทรอนิกส์มาที่เราโดยตรงได้เลย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 088-675-4962 หรือติดต่อ LINE ID: @hrtrecycling

แหล่งอ้างอิง

  • ขยะอิเล็กทรอนิกส์. สืบค้นเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2568 จาก https://www.gsb.or.th/
  • Global e-Waste Monitor 2024: Electronic Waste Rising Five Times Faster than Documented E-waste Recycling . สืบค้นเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2568 จาก https://unitar.org/

thไทย