อันตรายจากขยะอิเล็กทรอนิกส์มีอะไรบ้าง ร้ายแรงแค่ไหน

Written by HRT Recycling
Published on
August 8, 2024

เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมขยะอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ถ่านไฟฉาย แบตเตอรี่ ถึงต้องแยกทิ้ง ?

บทความนี้จะมาเฉลยคำตอบ พร้อมแนะนำว่าขยะอิเล็กทรอนิกส์ควรทิ้งที่ไหน และจัดการอย่างไร โดยเฉพาะในยุคนี้ที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันมากขึ้น ทำให้มีการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต ทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ฯลฯ แน่นอนว่าถ้าไม่มีวิธีจัดการที่ถูกต้อง สิ่งนี้ย่อมกลายเป็นปัญหาในระยะยาว ติดตามได้เลย

อันตรายจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ควรรู้

  • ตะกั่ว (Lead) : พบได้ในแบตเตอรี่ จอภาพ CRT และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ การสัมผัสตะกั่วในปริมาณมากหรือเป็นระยะเวลานาน อาจส่งผลให้เกิดความผิดปกติทางระบบประสาท ระบบสืบพันธุ์ และระบบย่อยอาหาร รวมถึงอาจทำให้เกิดภาวะสมองเสื่อมในที่สุด
  • ปรอท (Mercury) : อีกหนึ่งสารพิษอันตรายจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่พบได้มากที่สุด โดยเฉพาะในหลอดฟลูออเรสเซนต์และแบตเตอรี่ปุ่ม การได้รับปรอทในปริมาณสูงอาจส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้เกิดอาการชา อ่อนแรง และอาจนำไปสู่ภาวะไตวาย หรือกระทั่งเสียชีวิตได้
  • แคดเมียม (Cadmium) : เป็นโลหะหนักที่มักถูกใช้ในการผลิตแบตเตอรี่แบบ Ni-Cd และชิ้นส่วนพลาสติก การสัมผัสแคดเมียมเป็นเวลานาน อาจก่อให้เกิดโรคไต โรคกระดูกพรุน และโรคมะเร็งปอดได้
  • โครเมียม (Chromium) : โดยส่วนใหญ่แล้วมาจากเหล็กกล้าไร้สนิมที่ใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ ถือก็เป็นอีกหนึ่งสารพิษอันตรายจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่อาจส่งผลต่อระบบทางเดินอาหาร ผิวหนัง และระบบหายใจ หากได้รับในปริมาณมากเกินไป
  • พลาสติกชนิดหมายเลข 3 หรือ PVC : พลาสติกชนิดหมายเลข 3 หรือ PVC ที่ใช้หุ้มฉนวนสายไฟในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เมื่อถูกเผาไหม้จะปลดปล่อยสารไดออกซิน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง และส่งผลเสียต่อระบบฮอร์โมนในร่างกาย
  • สารหน่วงการติดไฟ (Flame Retardants) : อันตรายจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ชนิดนี้มีความเชื่อมโยงกับมะเร็ง ความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์ และความบกพร่องทางพัฒนาการในเด็ก

เห็นได้ว่าอันตรายจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอย่างที่หลายคนคิด สารพิษเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเราทั้งสิ้น ดังนั้น เราจึงควรให้ความสำคัญกับการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธี ซึ่งจะกล่าวถึงในหัวข้อต่อไป

บริการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธีโดยผู้เชี่ยวชาญ

วิธีการจัดการกับขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกต้อง ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

  • แยกประเภทขยะอิเล็กทรอนิกส์ : วิธีแรกที่ช่วยจัดการกับขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพคือ การแยกประเภทขยะอิเล็กทรอนิกส์ออกจากขยะทั่วไป เนื่องจากขยะอิเล็กทรอนิกส์มักมีส่วนประกอบที่เป็นสารพิษหรือวัสดุที่เป็นอันตราย เช่น ตะกั่ว ปรอท แคดเมียม หากทิ้งปะปนไปกับขยะประเภทอื่น ๆ อาจทำให้เกิดการปนเปื้อนของสารพิษลงสู่สิ่งแวดล้อมได้ ดังนั้น เพื่อป้องกันปัญหานี้ ควรมีการแยกประเภทและเก็บรวบรวมขยะอิเล็กทรอนิกส์ไว้ต่างหาก
  • ห้ามทุบหรือถอดชิ้นส่วนอุปกรณ์ด้วยตนเอง : นอกจากการแยกประเภทแล้ว สิ่งที่ควรระวังอีกอย่างคือ ห้ามทุบหรือถอดชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ด้วยตนเอง เพราะอาจทำให้สารพิษจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แพร่กระจายออกมาเป็นอันตรายได้
  • ตรวจสอบว่าผู้ผลิตมีบริการรับคืนซากอุปกรณ์เพื่อนำไปรีไซเคิลหรือไม่ : ถ้าไม่รู้ว่าขยะอิเล็กทรอนิกส์ควรทิ้งที่ไหนดี ขั้นแรกให้ตรวจสอบกับผู้ผลิตอุปกรณ์ก่อนว่ามีบริการรับคืนซากหรือรับกำจัดของเสียหลังหมดอายุการใช้งานหรือไม่ เพราะบริษัทผู้ผลิตหลายแห่งมีนโยบายรับคืนซากอุปกรณ์เพื่อนำไปรีไซเคิลอย่างถูกวิธี
  • ติดต่อหน่วยงานท้องถิ่นหรือบริษัทรับกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ : ถ้าไม่พบข้อมูลการรับคืนจากผู้ผลิต ให้ติดต่อหน่วยงานท้องถิ่นหรือสอบถามข้อมูลจากผู้ให้บริการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์โดยตรง โดยส่วนใหญ่จะมีบริการรับกำจัดโดยเฉพาะ แต่ต้องแน่ใจว่าบริษัทดังกล่าวมีกระบวนการกำจัดขยะอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ ไม่ใช่การทิ้งหรือเผาในที่โล่งแจ้ง ซึ่งจะยิ่งทำให้อันตรายจากขยะอิเล็กทรอนิกส์แพร่กระจายสู่ระบบนิเวศ

อยากกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธี ให้ HRT Recycling เป็นผู้ช่วย

เปลี่ยนเรื่องยากของผู้ประกอบการในการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ให้เป็นเรื่องง่าย เพียงใช้บริการ HRT Recycling ผู้นำด้านบริการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงรีไซเคิลอย่างถูกต้องในประเทศไทย เรารับซื้อขยะอิเล็กทรอนิกส์มามากกว่า 3,000 ตัน มีใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจที่จำเป็นทั้งหมดในประเทศไทยเพื่อส่งเสริมธุรกิจที่โปร่งใส โดยทีมของเราพร้อมไปรับขยะอิเล็กทรอนิกส์จากสำนักงานของคุณ หรือคุณสามารถส่งขยะอิเล็กทรอนิกส์มาที่เราโดยตรงได้เลย !

แหล่งอ้างอิง

thไทย